REVIEW บัตรกรุงไทย TRAVEL CARD


                             สวัสดีค่ะเพื่อนๆ  แอ๋มจะมารีวิวบัตรกรุงไทย TRAVEL CARD  ซึ่งเป็นบัตรที่แสนสะดวกสำหรับคนชอบเดินทางเพราะว่าบัตรใบนี้ใบเดียวทำให้เราไม่ต้องพกพาเงินสดจำนวนมากขณะที่เราเดินทางต่างประเทศ   แถมได้เรทดีสุดๆเหมือนไปแลกเงินที่ร้านแลกเงิน

                           ตอนนี้บัตรกรุงไทย TRAVEL CARD สามารถใช้จ่ายได้ถึง 14 สกุลเงิน  ได้แก่ USD, EUR, JPY, AUD, CAD, CHF, DKK, GBP, HKD, NOK, NZD, RUB, SEK และ SGD  นอกจากนั้นยังมี CNY แต่ต้องทำบัตรแยกอีกใบ

ขั้นตอนการสมัคร  

  1. มีบัญชีกรุงไทย
  2. มี APPLICATION  NEXT ของกรุงไทย
  3. สมัครผ่าน APPLICATION NEXT
  4. กด "บริการ" เลือก "กรุงไทย TRAVEL CARD"


         5. เลือกประเภทบัตรที่เราต้องการทำ บัตรกรุงไทย Travel Visa Prepaid Card  สำหรับ 14 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, JPY, AUD, CAD, CHF, DKK, GBP, HKD, NOK, NZD, RUB, SEK และ SGD    สำหรับบัตรกรุงไทย Travel UPI Debit Card  สำหรับเงิน CNY


6.   หลังจากนั้นก็มากรอกข้อมูลเลยค่ะ  จะมีชื่อบัญชีที่เราเลือกผูกกับบัตรเพราะเราต้องแลกเงินในแอพ  และเค้าจะมีให้เราเลือกชื่อบนบัตร  เบอร์โทรศัพท์ที่เราใช้ติดต่อเมื่อธนาคารให้เราไปรับบนบัตรจังหวัดและสาขาที่เราต้องการไปรับบัตร   หลังจากนั้นกดถัดไปเป็นอันเสร็จค่ะรอบัตรประมาณ 7 วันทางสาขาจะโทรมาให้เราไปรับบัตร  ให้นำบัตรประชาชนไปด้วย  


7.  เมื่อได้รับบัตรแล้วก็นำบัตรไปตั้งรหัสที่ตู้เอทีเอ็มได้เลยค่ะ   โดยรหัสบัตรเอทีเอ็มแรกเริ่มจะเป็นเลขบัตรประจำตัวประชาชน 6 ตัวท้าย

วิธีการแลกเงิน

         บัตรใบนี้เราสามารถแลกเงินภายในแอพได้เลย  
  1. ไปที่หน้า Travel Card  เลือกสกุลเงินที่เราต้องการแลก  หน้าแอพจะแสดงราคาแลกซื้อและขายคืน

        
      2.  เลือกบัญชีที่เราต้องการแลกเงิน  เลือกจำนวนเงินที่เราต้องการแลก  แล้วกดถัดไป


               หลังจากนั้นแอพจะโชว์สกุลเงินที่เราแลก  และยอดเงินคงเหลือ   นอกจากนั้นเรายังสามารรถเลือกเปิดปิดบัตรได้ตามต้องการในกรณีที่บัตรสูญหาย




ข้อดี

  1. สะดวกไม่ต้องพกพาเงินเยอะ
  2. ตอนนี้ค่าทำบัตรฟรี( กย. 62)
  3. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราใกล้เคียงร้านแลกเงิน
  4. รูดฟรี ไม่มีชาร์จ
  5. สามารถแลกเป็นเงินไทยได้ผ่านแอพไม่ต้องไปแลกที่ร้าน

ข้อเสีย

  1. เสียเงินค่ากดแล้วแต่ประเทศต้องเช็คกับธนาคารกรุงไทย  นอกจากนั้นยังต้องเสียค่ากดให้ตู้ของธนาคารที่ต่างประเทศอีกด้วย  พูดง่ายๆคือเสีย 2 ต่อ



                                                                                    

0 Comments