สวัสดีค่ะเพื่อนๆหลายคนคงทราบว่าแอ๋มเตรียมสอบภาษาอังกฤษอยู่  โดยภาษาอังกฤษที่แอ๋มเลือกสอบในครั้งนี้คือ Occupational English Test หรือเรียกสั้นๆว่า "OET"  

OET คืออะไร

              OET เป็นข้อสอบที่ใช้วัดระดับทักษะความสามารถทางภาษาอังกฤษของเราเหมือนกับ IELTS, PTE, TOEFL  แต่ว่าข้อสอบ OET จะเป็นข้อสอบที่มีเนื้อหาการสอบเกี่ยวกับเรื่องสูขภาพ  โดยข้อสอบจะแบ่งเป็น 4 ส่วน ฟัง พูด อ่าน เขียน และยังแบ่งเป็นข้อสอบของแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ นักกายภาพบำบัด เป็นต้น  

ทำไมเลือกสอบ OET

              สาเหตุที่แอ๋มเลือกสอบ OET นะคะ  เนื่องจากแอ๋มเคยสอบ IELTS คือยากมากในการเพิ่มคะแนนทีละ 0.5  เลยลองหาตัวอย่างข้อสอบของ PTE, IELTS, OET , TOEFL  ลองทำดูแล้ว  คิดว่า OET ตอบโจทย์เรามากที่สุดโดยเฉพาะพาร์ท Writing และ Speaking  2พาร์ทนี้ถือเป็นพาร์ทที่ท้าทายเรามากที่สุด  เนื่องจากเราอยู่เมืองไทยการที่เราจะฝึกพูดและฝึกเขียนมันมีโอกาสน้อยมาก   แต่ข้อสอบ OET ข้อสอบเขียนคือจดหมายซึ่งจดหมายจะมีหลายสถานะการณ์แล้วแต่โจทย์จะให้มา  โดยทั่วไปเราอาจจะต้องเขียนจดหมายถึงสหวิชาชีพและอธิบายอัพเดทถึงอาการของคนไข้  สิ่งที่ต้องส่งต่อและดูแลต่อเนื่อง   ซึ่งโดยส่วนตัวเราคิดว่าไม่ยากมากเกินความสามารถของเรานัก  ในส่วนของ Speaking เขาจะให้สถานการณ์มาซึ่งเราอาจจะต้องปลอบโยนคนไข้ อธิบายคนไข้  ชักจูงคนไข้ให้เค้าทำตามคำแนะนำของเราอย่างที่บอกดูแล้วไม่ยากเกินความสามรถของเรา  เราจึงเลือกสอบ OET

การเตรียมตัว    

             แอ๋มใช้เวลาในการเตรียมตัวสอบ 3 เดือนในการสอบครั้งแรก   ซื้อเอกสารของ OETONLINE 
พาร์ท Writing และ Speaking ทั้งหมดเป็นเงิน 50 AUDs  ส่วน Listening กับ Reading หาข้อสอบฟรีในเนตค่ะ  แอ๋มทำตารางสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษเอาไว้  ทำได้ค่อนข้างสม่ำเสมอนะคะ  แต่ว่าในช่วงเวลาของการเตรียมตัวอาจจะไม่ได้เป็นไปตามแผนทุกอย่างเนื่องจาก 1 เดือนก่อนสอบแอ๋มติดโควิดและตัวเรามีไข้อ่อนเพลียมาก ทำให้ช่วงหลังไม่ได้เตรียมตัวอ่านหนังสือเลย

การจองสอบ

           เราต้องเข้าไปสร้างบัญชีที่เว็บOET  เราจะต้องกรอกข้อมูลชื่อ นามสกุลของเราให้ถูกต้อง  และเราต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตนจะใช้ Passport หรือ บัตรประชาชนก็ได้  แต่วันสอบคุณต้องเอาเอกสารยืนยันตัวตนให้ตรงกับที่เราลงทะเบียนไว้   เมื่อลงทะเบียนสอบเรียบร้อยเราจึงสามารถจองสอบได้  การจองสอบต้องจองสอบล่วงหน้า 1 เดือน  และเมื่อสอบเรียบร้อยแล้วผลสอบจะออกอีก 1 เดือน  1เดือนมีการสอบ 2 ครั้งสำหรับแพทย์และพยาบาล  สำหรับวิชาชีพอื่นๆต้องเช็คกับทางเวบไซต์อีกทีค่ะ  ค่าสอบ 587 AUDs จ่ายเป็นบัตรเครดิทหรือเดบิท

สถานที่สอบและพัก


           สถานที่สอบคือ AUA ราชดำริ มีที่จอดรถฟรีหรือเราสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีราชดำริได้เลย   โดยส่วนตัวของแอ๋มพักที่โรงแรมไอบิสสยาม(ค่าโรงแรม 900 บาทใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน)  มีรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติอยู่ตรงหน้าโรงแรมเลย แอ๋มนั่งรถไฟฟ้าไปลงลงสถานีราชดำริใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ  

การสอบ

แอ๋มจะอธิบายเป็นพาร์ทๆนะคะ
ฟัง  ข้อสอบมี 3 พาร์ท  พาร์ท A คือการจดโน๊ตที่หายไป  พาร์ทนี้ต้องตั้งใจฟังดีๆเพราะเร็วมาก เขียนให้ใกล้เคียงคำตอบมากที่สุด  พาร์ท B จะเป็นบทสนทนาระหว่างคน 2 คน  เราต้องจับใจความว่าเค้าพูดถึงเรื่องอะไร  พาร์ท C คือพาร์ทที่ยากที่สุด  จะเป็นการพูดถึงโรคหรืองานวิจัยซึ่งจะยาวมากเราต้องตั้งใจฟังเพราะข้อสอบจะพูดรวดเดียวและให้เราหา Main Idea ของข้อสอบ
อ่าน  ข้อสอบมี 3 พาร์ท  พาร์ท A แอ๋มให้พาร์ทนี้ง่ายที่สุดแต่ว่าต้องอาศัยความเร็วในการอ่าน  ส่วนพาร์ทที่ยากที่สุดคือพาร์ท C เราจะต้องอ่านพารากราฟและหา Main Idea ว่าผู้เขียนต้องการสื่ออะไรกับเรา  ข้อสอบพาร์ทนี้แอ๋มทำไม่ทันค่ะ กามั่วไป 8 ข้อ
เขียน  แอ๋มได้ข้อสอบที่ต้องเขียนไปหา GP เพื่ออัพเดทอาการของคนไข้   ตอนอ่านโจทย์อึ้งไป 10 นาที  พอเริ่มเขียนได้เครื่องเริ่มเดิน   แต่เอาตามตรงเขียนไม่ทันค่ะ  คิดว่าเราอาจจะฝึกเขียนไม่เพียงพอ  และยิ่งการเขียนเป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับเรา  เราไม่ได้เขียนตรงพารากราฟสิ่งที่ต้องส่งต่อและเฝ้าระวังไม่ทันในผู้ป่วยรายนี้ซึ่งเป้นพารากราฟที่สำคัญที่สุดของจดหมายฉบับนี้  คิดว่าไม่ผ่านแน่นอนตอนที่ทำข้อสอบเสร็จ  
พูด  แอ๋มได้มาทั้งหมด 2 บทบาทสมมุติ  ซึ่งตอนที่เห็นข้อสอบไม่ได้ยากอย่างที่คิดโจทย์ที่เราได้รับคล้ายๆโจทย์ที่เราฝึกอยู่ แต่ว่าเราตื่นเต้นจนพูดผิดจากที่เราได้ซ้อมไว้ สอบเสร็จก็คิดว่าไม่ผ่านเช่นกัน


ผลสอบ 

                                                                                        



ฟัง 350 อ่าน 330 เขียน 300 พูด 300
คะแนนในส่วนของพาร์ทเขียนและพูด  คือคะแนนที่ผิดคาดค่ะ  คิดว่ายังไงก็ไม่ผ่านและได้คะแนนประมาณ D เพราะเราฝึกทำข้อสอบน้อย  แต่คะแนนสูงกว่าที่เราคิดไว้ค่ะ  

การอ่านหนังสือสอบ

สำหรับคนที่มีเวลาเราคิดว่าสามารถอ่านหนังสือสอบเองได้ค่ะ  เพียงแต่ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจมากหน่อย    สำหรับรอบหน้าเราคิดว่าคงจะลงติวข้อสอบเพราะว่าเราไม่ค่อยมีเวลาและเราอยากให้สอบผ่านไวๆเพราะว่าตอนนี้วีซ่าหลายๆประเทศขอได้ง่ายขึ้นสำหรับพยาบาลในช่วงโควิด


   
    

                

0 Comments