สวัสดีคะ  วันนี้แอ๋มจะมาแชร์ประสบการณ์การไปสอบ NCLEX ที่ไต้หวัน   วิธีการเตรียมตัวสอบหนังสือและแหล่งการเรียนรู้ที่ใช้


ก่อนอื่นแอ๋มขออนุญาตไล่ timeline 

28 พย. 65 submittedเอกสารให้ AHPRA 

29 พย. 65 ได้ eligible 

29 พย. 65 จ่ายเงิน 220 ดอลลาร์ให้ PEARSONVUE

3  มค. 66 ได้ ATT จ่ายเงิน 150 ดอล จองสอบ NCLEX ที่ไต้หวัน

30 มค. 66 สอบ NCLEX หลังสอบ 30 นาทีได้ email จาก PEARSON VUE ทำ PVTได้ good popup. หลังสอบ 3 ชม. ทำ PVT ได้ good popup

1 กพ.66    ได้รับอีเมล์ผลสอบอย่างเป็นทางการว่า”ผ่าน”

แอ๋มลาออกจากงาน 16 ธค. 65 ต้องเริ่มงานใหม่ 1 กพ 66   ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ใหม่เราจะลาหยุดหรือว่าขอวันลาได้ไหม   ทำให้ต้องรีบสอบก่อนเริ่มงานใหม่ วันสอบจึงลงตัวอยู่ที่วันที่ 30 มค.66  ส่วนตัวที่รีบสอบเพราะไม่อยากสอบข้อสอบ NEW GEN


ช่วง 16-31 ธค. 65 ช่วงนั้นเดิมทีตั้งใจว่าจะออกมาอ่านหนังสือระหว่างรอ ATT.  แต่ไม่ได้อ่านเลยเนื่องจากที่ทำงานที่เคยไปสัมภาษณ์ไม่เรียกไปตรวจร่างกายซักที  ทำให้ไม่แน่ใจว่าเค้ารับเรารึยัง   ทำให้ต้องหางานอื่นสำรองไว้อีกงาน  หลังจากนั้นก็เที่ยวช่วงปีใหม่


หลังจากที่รองานใหม่ 7 มค. 66 งานเดิมที่เคยไปสัมภาษณ์ไว้ติดต่อกลับมาคุยเรื่องเงินเดือนขอเอกสารเพิ่มและนัดตรวจร่างกาย  ช่วงต้นเดือนมค.66 แอ๋มเสียเวลาการเดินทางขอเอกสารและการตรวจสุขภาพ  เริ่มอ่านหนังสือคือสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม

 

มีเพื่อนให้ Uworld มาก้อไม่ได้เข้าไปอ่านจนหมดอายุ   ซื้อ Saunders มาอ่านได้ 10 หน้าก็ไม่ได้อ่านต่อ  แอ๋มมีโอกาสได้ฟังคลิปของ Simplenursing ซึ่งเค้ามีทริคต่างๆและมีข้อสอบให้ทำ  จึงตัดสินใจใช้material ของ simplenursing อย่างเดียว ซึ่งราคาที่ได้มาเป็นราคาที่คุ้มมากๆ   เรื่องmaterial ขึ้นอยู่กับจริตและเงินในกระเป๋าของทุกคนนะคะ  ตัวแอ๋มงบน้อยก็ตามกำลังคะ  


ข้อดีของ Simplenursing หลักๆคือเรื่องของราคาเพราะได้มาในราคาประหยัด  2. เนื้อหาครอบคลุมทั้งหมดของ NCLEX 3. ในส่วนวิดีโอมีสอนทริคการจำและเน้นว่าตรงส่วนไหนที่ NCLEX ออกบ่อยๆ 4. มีชีทสรุปให้เราดู 5. มีข้อสอบให้เราฝึกทำ(อันนี้สำคัญมากเพราะเราจะได้ฝึกวิธีการคิดจากการทำข้อสอบ)


เทคนิคการเตรียมตัวของแอ๋มค่อนข้างจะแอบโหดเพราะเหลือเวลาสั้นมากในการเตรียมตัว   แอ๋มจะทบทวนเรื่องที่เราไม่ถนัดก่อนซึ่งก็คือ จิตเวช สูติ เด็ก   ดูวิดีโอแบบรีบมากเพิ่มสปีดไปที่1.25-1.5 เพื่อให้ดูได้เสร็จไวๆ  เรื่องไหนที่ดูแล้วไม่เข้าใจไม่ปล่อยผ่านจะหาข้อมูลในเน็ต   จนกว่าเราจะเข้าใจ  หลังจากดูวิดีโอครบในแต่ละเรื่อง  แอ๋มจะทำข้อสอบในหัวข้อนั้นๆอย่างน้อย 200 ข้อ ข้อไหนที่ผิดแอ๋มจะทำความเข้าใจว่าทำไมเราถึงตอบผิด  และข้อไหนที่ถูกทำไมเค้าถึงตอบไม่เหมือนเรา


ข้อสอบที่แอ๋มทำทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2000 ข้อ แอ๋มได้มีการทำmock test. ซึ่งคะแนนที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 60%  แอ๋มค่อนข้างกังวลพอสมควร  เพราะคะแนนที่ต้องการอยู่ที่75%สำหรับเกณฑ์ผ่าน   การหาที่พึ่งพาทางจิตใจก็อาจจะช่วยเราได้เราเลยต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แอ๋มจึงได้ไปไหว้พระที่วัดหลงซาน  แล้วลองทำการเสี่ยงทายดู ได้คำตอบคือ”ผ่าน”  (ถ้าเครียดมากๆเราอาจจะต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวให้ตัวเราเอง)


วันสอบมึนมากเนื่องจากนอนไม่ค่อยหลับกลัวไม่ตื่น  ทำข้อสอบด้วยความมึน  ระหว่างทำมีความรู้สึกว่าเราอาจจะไม่ผ่าน   คิดถึงว่าเราจะสอบครั้งหน้าอีกช่วงไหนดี  ทำถึงข้อที่ 75 ปรากฏว่าจอดับ  ในใจคือสงสัยมากว่าสรุปผ่านหรือไม่ผ่าน   


ข้อสอบที่แอ๋มเจอเยอะที่สุดคือ Prioritization and delegation จิตเวชและห้องผ่าตัด  ไม่เจอเลยคือสูติ พัฒนาการเด็ก


หลังจากสอบเสร็จ แอ๋มไปวัดหลงซานต่อ.  ไปไหว้พระกับซื้อเครื่องรางเพราะเพื่อนฝากซื้อ  ทำ PVT ตอนอยู่วัด สงสัยอยู่ในใจมากเราทำเร็วไปรึเปล่า  PVT จะหลอกเราไหมนะ  ซึ่งหลังจากนั้น วันที่ 1 กพ 66 แอ๋มได้ผลอย่างเป็นทางการว่าเราสอบผ่าน   


แอ๋มมานั่งทบทวนว่าเราสอบผ่านได้อย่างไรเพราะตอนทำmock testคะแนนคือ 60% ตลอด คำตอบที่ได้ว่าทำไมเราถึงผ่านคือ  เราอ่านโจทย์แล้วเราสามารถตีความคำถามได้แค่ไหน  ซึ่งทุกข้อตอนทำข้อสอบจริงแอ๋มพยายามหาจุดที่เป็นคีย์เวิร์ดว่าโจทย์ต้องการถามอะไรเรา  ในขณะที่ตอนทำ mock test  เราพยายามรีบอ่านโจทย์เพื่อรีบทำข้อสอบให้เสร็จเพื่อให้ข้อสอบผ่านตาเรามากที่สุดทำให้เราตีความโจทย์ผิด    อีกข้อหนึ่งที่แอ๋มอยากเน้นย้ำคือเราต้องเข้าใจว่าNCLEX     คือข้อสอบที่ทดสอบเราว่าเราทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยได้แค่ไหน  ตอนทำข้อสอบถ้าไม่รู้จะตอบอะไร  ให้เลือกดูว่าตัวเลือกไหนผู้ป่วยจะปลอดภัยที่สุดจากคำถามที่ให้มา


ค่าใช้จ่าย

ค่าสอบ 370 ดอลลาร์

ค่าเครื่องบิน 10000 บาท(EVA air)

ค่าโรงแรม 4 คืน 7200 บาท  ราคาแต่ละคืนไม่เท่ากัน  3คืนแรกแอ๋มนอนแถวTaipei main station ราคา 5600บาท คืนสุดท้าย 1500 บาท(รร. Justinn) อยู่ตรงข้ามที่สอบเลย  เหตุผลที่ไม่ได้นอนที่จัสต์อินน์ตั้งแต่คืนแรกเพราะค่าโรงแรมแพงมากเพราะช่วงนั้นเป็นตรุษจีน  เลยเลือกไปนอนที่poshpacker. 

ค่ากินค่าเดินทางหมดไป 3500 ดอลลาร์ไทเปเนื่องจากไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะหนาวมาก

ค่าประกัน 5000 บาทซื้อรายปีเพราะคิดว่าปีนี้คงบินหลายรอบ




0 Comments